สวัสดีครับ ในที่สุดเวลาของปี1ก็ล่วงเลยมาถึงโปรเจคสุดท้ายแล้ว
โปรเจคนี้ถือว่าหนักมาก และถือว่าเป็นตัววัดความรู้ทั่้งหมด ชนิดที่ว่า
ใครมี่เท่าไหร่ก็ต้องขุดออกมาให้หมดเลยทีเดียว
งานนี้เราได้ไปดูSiteงานกันถึงเกราะเกร็ดและได้นั่งเรือชมรอบเกาะมาแล้ว เพราะงานนี้นอกจากที่เราจะออกแบบตามใจเราแล้ว
ยังต้องให้เกิดความสอดคล้องกับบริบทโดยรอบอีกด้วย ซึ่งงานตัวนี้พื้นที่ที่เราได้มาถืมว่าเป็นพื้นที่ๆใหญ่มากเลยทีเดียว
โจทย์ในคราวนี้ยาวขนาดเป็นเนื้อเรื่องเลยทีเดียวคือให้นิสิตออกแบบศิลป์พำนักสำหรับศิลปินทุกแขนง ด้วยขนาดพื้นที่โครงการกว่า 150ตารางวา แต่รองรับศิลปินได้เพียงหนึ่งคน หรือสองคนก็ได้แต่ต้องมาเป็นคู่ ตัวสถาปัตยกรรมต้องส่งเสริมให้ศิลปินมีปฏิสัมพันธ์กับคนในชุมชนสามารถพูดคุยและแลกเปลี่ยนข่าวสารกันได้ โดยอยู่ร่วมกับครอบครัวชาวปากเกร็ด ลุงหมากผู้เชี่ยวชาญด้านพืชศาสตร์ ป้าทับทิม ผู้เชี่ยวชาญขนมไทย และคุณปูรณ์ลูกชายที่ทำอาชีพปั้นเครื่องปั้นดินเผา แต่่สวนที่พักศิลปินต้องดูแลเอง
เนื่องจาพื้นที่เกราะเกร็ดเป็นพื้นที่กึ่งอนุรักษ์ผมจึงพยายามออกแบบให้มีรูปแบบที่เป็นทรงไทยประยุกต์
และเนืื่่องจากที่นั่นมีน้ำท่าวมเป็นประจำในทุกปี จึงมีการถมดินเพื่อยกระดับบ้านให้สูงขึ้นเป็นระดับชั้น
ความยากของเจ้างานตัวนี้คือต้องรองรับUserหรือผู้ใช้งานหลายๆคนซึ่งก็มีรูปแบบการใช้ชีวิตที่แตกต่างกันออกไป
ซึ่งผมก็แบกบ้านหลังนี้ออกเป็นสองเรือนคือเรือนของเจ้าของบ้านและรือนของผูมาอาศัยนั่งก็คือศิลปิน
ซึ่งแต่ละฝ่าก็มีความเป็นส่วนตัวและก็มีพื้นที่นั่งเล่น และรับประทานอาหารให้ผู้คนในบ้านได้มีปฏิสัมพันธ์กัน
งานชิ้นนี้ถือว่าเป็นงานที่ผมฉีกแนวความคิดจากแบบเดิมๆที่ผ่านมา ทำให้ดูมีดีไซน์มากกว่างานอื่นๆ ทั้งรูปแบบภายนอก
และภายในก็ยังมีการเล่นระดับของพื้นซึ่งก็เพิ่งเคยลองทำครั้งแรก แต่ก็ถือว่าได้ผลเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ด้วยขนาดของพื้นที่ทำให้ผมได้มีโอกาสในการทำงานLandscapeซึ่งก็ถือเป็นครั้งเเรกเช่นกัน
และยิ่งเราเป็นเด็กแลนด์ด้วยแล้วเลยจัดเต็มพื้นที่สวนค่อนข้างเยอะ ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน รวมถึงบริเวณเชื่อมต่อของทั้งสองเรือน
ก็ยังมีการเอาธรรมชาติเข้ามาแทรกในกลุ่มอาคาร
ในการนำเสนองานครั้งนี้ก็น่ากลัวอีกเช่นเคยเพราะถึงกับแยกเป็นห้องเดี่ยวๆเพื่อนำเสนอ ครั้งนี้ผมก็ว่าตัวเองยังพรีเซนต์ไม่ดีนักอาจจะเพราะตื่นเต้น อาศัยจัดเต็มตัวงานเข้าว่า แล้วก็โดนคอมเมนต์ต่างๆนาๆเช่นการถมดินทำให้สิ้นเปลืองไป ฯลฯ
สำหรับงานตัวนี้ก็ถือว่าผ่านสำเร็จไปด้วยเวลาอันหวุดหวิดแต่ก็พึงพอใจแล้วเพราะในงานนี้เราสามารถทำได้เต็มที่ในสิ่งที่เราต้องการ
หวังว่าในปีต่อไปคงจะทำงานพัฒนาฝีมือให้ดีกว่านี้เรื่อยๆ
แล้วเจอกันต่อในปี2ครับ^^
^_____________________________^
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น